เหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี ตั้งอยู่ที่ไหน
การดำเนินโครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี แบ่งเป็น
- พื้นที่บนผิวดิน สำหรับสร้างอาคารสำนักงานและโรงแต่งแร่ อยู่ในพื้นที่บ้านหนองตะไก้ ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เนื้อที่ 1,681 ไร่
- พื้นที่ใต้ดิน สำหรับการทำเหมือง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ ตำบลโนนสูง ตำบลหนองไผ่ ตำบลหนองขอนกว้าง อำเภอเมืองอุดรธานี และตำบลห้วยสามพาด ตำบลนาม่วง อำเภอประจักษ์ศิลปาคม เนื้อที่รวม 26,446 ไร่ 1 งาน 49 ตารางวา
เหตุใดการทำเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี จึงเลือกพื้นที่บริเวณบ้านหนองตะไก้ เป็นโรงแต่งแร่
เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมต่อการทำเหมืองฯ กล่าวคือมี ปริมาณแร่โพแทชที่สามารถทำเหมืองได้เหมาะสม เป็นที่ราบและสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 190 เมตร ไม่มีแหล่งโบราณสถานหรือโบราณวัตถุ และ ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟหนองตะไก้และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 จึงสามารถขนส่งแร่ได้สะดวกรวมถึงมีระบบสาธารณูปโภค ต่างๆ ที่สามารถรองรับความต้องการของโครงการได้อย่างเพียงพอ ทั้งไฟฟ้าจากสถานีไฟฟ้าย่อยจังหวัดอุดรธานีและ น้ำประปา จากการประปาส่วนภูมิภาคอุดรธานี โดยไม่ส่งผลต่อการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาของชุมชน
แร่โพแทชนำไปใช้ประโยชน์ในด้านใด
ประโยชน์หลักๆ ของแร่โพแทช คือ ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยโพแทสเซียม ซึ่งเป็นแม่ปุ๋ยหนึ่งในสามส่วนผสมสำคัญในการผลิตปุ๋ยเคมี (ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม) โดยปุ๋ยโพแทสเซียมมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มผลผลิตและป้องกันโรคให้แก่พืชผล
การทำเหมืองแร่โพแทชในประเทศไทย สำคัญอย่างไร
ประเทศไทย เป็นประเทศเกษตรกรรมที่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้แก่พืช โดยไม่สามารถใช้ปุ๋ยอื่น ๆ ทดแทนได้ เนื่องจากปุ๋ยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและหน้าที่แตกต่างต่างกัน ในขณะที่ประเทศไทยมีการนำเข้าแร่โพแทชในแต่ละปีประมาณ 700,000 ตัน คิดเป็นจำนวนเงินที่ประเทศไทยจะต้องสูญเสียในแต่ละปี สูงถึงกว่า 9,000 ล้านบาท ดังนั้น หากประเทศไทยสามารถพัฒนาโครงการเหมืองแร่โพแทชได้สำเร็จ ราคาปุ๋ยเคมีก็มีแนวโน้มที่จะถูกลงจากเดิม เกษตรกรสามารถเข้าถึงปุ๋ยเคมีได้มากขึ้น ช่วยลดงบประมาณของประเทศจากการนำเข้าแร่โพแทชจากต่างประเทศและสร้างรายได้จากการส่งออกขายยังต่างประเทศ ปีละประมาณ 18,000 ล้านบาท
ประโยชน์ของแร่โพแทช นอกจากนำมาทำเป็นปุ๋ยแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ทำอะไรได้อีกบ้าง
นอกจากแร่โพแทชจะเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปุ๋ยเคมีแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์บางประเภท เช่น การผลิตแก้ว ยา สบู่และเซรามิก เป็นต้น
โครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี มีปริมาณสำรองแร่มากแค่ไหน คุ้มค่ากับการทำเหมืองหรือไม่?
จากการสำรวจแหล่งแร่โพแทชในพื้นที่โครงการฯ พบว่ามีปริมาณแร่สำรองประมาณ 267.79 ล้านตัน วางตัวในแนวค่อนข้างราบที่ความลึกจากผิวดิน เฉลี่ย ประมาณ 315 เมตร โดยมีความหนาของชั้นแร่เฉลี่ย 3.6 เมตร มีค่าคุณภาพแร่เฉลี่ยเท่ากับ 23.24 %K2O (เทียบเท่า 38.10 %KCl)
แหล่งแร่โพแทชในจังหวัดอุดรธานีถือเป็นแหล่งแร่โพแทชคุณภาพสูง ซึ่งปริมาณแร่สำรองที่คาดว่าจะทำเหมืองได้คือ 100.51 ล้านตัน เมื่อทำการผลิตแร่แล้ว จะมีหัวแร่โพแทชประมาณ 36.37 ล้านตัน โดยมีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 2 ล้านตันต่อปี
เหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี มีระยะเวลาในการดำเนินการกี่ปี
โครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี ได้รับอนุญาตประทานบัตรให้ดำเนินโครงการในปี 2565 โดยมีระยะเวลาในการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2565 – 22 กันยายน 2590 รวมระยะเวลาทั้งหมด 25 ปี
ปัจจุบัน เกษตรกรไทย ใช้ปุ๋ยโพแทสเซียมจากไหน ?
แหล่งแร่โพแทชคุณภาพดี ที่สามารถดำเนินการในเชิงพาณิชย์มีมากในประเทศแคนาดา รัสเซีย และเบลารุส รวมกันประมาณ 2 ใน 3 ของปริมาณการผลิตทั้งหมดจากทั่วโลก ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในอังกฤษ เยอรมนี สเปน สหรัฐอเมริกา อิสราเอล จอร์แดน จีน ชิลี และบราซิล ในขณะนี้ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียยังไม่สามารถผลิตโพแทชได้เอง ยังคงต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ยกเว้นจีน และสปป.ลาว ที่เริ่มพัฒนาเพื่อนำขึ้นมาใช้ประโยชน์แต่กำลังการผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ที่สำคัญแหล่งสำรองแร่ที่ สปป.ลาวกำลังเร่ง พัฒนานั้นเป็นแหล่งเดียวกับพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางของแหล่งนี้ เริ่มสามารถนำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้แล้ว